
รักษาหลุมสิว รอยแผลเป็นเชียงใหม่ ที่ MorTrust Clinic
กังวลกับปัญหาหลุมสิว และรอยแผลเป็นที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน จนทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจหรือเปล่า? ที่ MorTrust Clinic ในเชียงใหม่ เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกเหล่านั้น และพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะช่วยให้คุณบอกลาผิวที่ไม่เรียบเนียน เรามีบริการหลากหลายทางเลือกในการรักษาหลุมสิว และรอยแผลเป็น โดยออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ทั้งหัตถการเลเซอร์หลุมสิว ที่ช่วยฟื้นฟูผิวล้ำลึก หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
ที่สำคัญทุกขั้นตอนการรักษาจะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของเรา เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัย และตรงใจ ในตอนนี้ถึงเวลาคืนความเรียบเนียน สดใส และความมั่นใจให้กับผิวของคุณแล้วที่ MorTrust Clinic เชียงใหม่

สารบัญ
หลุมสิวคืออะไร?
หลุมสิว คือ รอยแผลของสิวอักเสบที่หายแล้ว ซึ่งเป็นการอักเสบในระดับที่ลดลงไปถึงผิวชั้นใน เช่น สิวหัวช้างที่มีขนาดใหญ่หรือสิวที่เป็นหนอง และไม่สามารถสมานแผลกลับมาได้เต็มที่จากพังพังผืดที่ทำให้ผิวหนังยุบไปตามกระบวนการฟื้นฟูแผลของระบบร่างกาย ส่งผลให้ผิวภายนอกเห็นว่ามีรอยบุ๋ม ผิวไม่เรียบเนียน ในบางรายหากเกิดสิวอักเสบเยอะ ก็จะทำให้รอยหลุมสิวเยอะตามไปด้วย ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร

หลุมสิวมีกี่ประเภท?
ทำไมการรักษาถึงแตกต่างกัน
หลุมสิวแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- หลุมสิวแบบ Ice pick (รูเข็ม) : มีลักษณะเป็นรูลึกแคบ มีขนาดประมาณ 2 มม. เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงมากที่สุดใน 3 ประเภทนี้ เกิดจากการบีบสิวที่เป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ รักษายากเพราะสิวกินเนื้อไปถึงระดับชั้นผิวหนังแท้แล้ว แถมยังทำให้คอลลาเจนจางลงไปด้วย ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานเพื่อให้หลุมตื้นขึ้น
- หลุมสิวแบบ Boxcar (ก้นหลุมแบน) : ที่มีขอบชัดเจน มีขนาดกว้าง มีความลึกอยู่ที่ 3-5 มม. เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงปานกลาง พบพังผืดติดอยู่กับชั้นหนังแท้ พบได้ทั้งแผลแบบลึกและแบบตื้น มีสาเหตุมาจากคนที่เป็นโรคอีสุกอีใส หรือคนที่เป็นสิวอักเสบ
- หลุมสิวแบบ Rolling (หลุมกลมนูน) : ที่มีขอบโค้งมน หลุมสิวชนิดนี้อยู่ในระดับทั่ว ๆ ไป เป็นหลุมตื้น ๆ อยู่เพียงผิวส่วนบน ไม่ลึกไปถึงระดับชั้นผิวหนัง รักษาได้ง่ายที่สุด เพราะแทบจะไม่มีความรุนแรงเลย
โปรแกรม Potenza Laser
ทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Potenza Laser เป็นนวัตกรรมความงามที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุร่วมกับเข็มขนาดเล็ก (Radio Frequency Microneedling) ที่ทันสมัย โดยมีจุดเด่นคือการรวมเอาคลื่นพลังงาน 4 รูปแบบ ได้แก่ MONOPOLAR, BIPOLAR, 1 และ 2 MHz ไว้ในเครื่องเดียว ทำให้สามารถปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาผิวที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น
- รักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิว: ช่วยลดการอักเสบและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
- ยกกระชับผิว : ช่วยให้ผิวเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์
- ผลักตัวยาและวิตามินเข้าสู่ผิว: ช่วยให้สารบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก
- ปรับแต่งการรักษาเฉพาะบุคคล : สามารถปรับระดับความลึกของเข็มและพลังงานให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลได้
- รักษาได้หลายบริเวณ : สามารถใช้รักษาได้ทั่วร่างกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด


ทำไมต้องโปรแกรม Potenza Laser?
เหตุผลที่ต้องทำโปรแกรม Potenza Laser มีดังนี้
- ผลลัพธ์เห็นได้ชัด : ช่วยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน ลดหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รักษาได้หลากหลาย : สามารถรักษาได้ทั้งหลุมสิวทุกประเภท รอยแดง รอยดำ และริ้วรอย
- เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด : ปรับความถี่ได้ทั้ง Monopolar และ Bipolar เพื่อการรักษาที่หลากหลาย
- ความเจ็บปวดน้อย : มีระบบทำความเย็นและใช้ยาชาที่มีประสิทธิภาพ
- ฟื้นตัวเร็ว : ใช้เวลาฟื้นตัวสั้นกว่าเลเซอร์แบบเดิม
- ปลอดภัยกับทุกสีผิว : ใช้ได้กับผิวเอเชียโดยไม่มีความเสี่ยงเรื่องรอยดำหลังการรักษา
โปรแกรม Potenza Laser เหมาะกับใคร?
โปรแกรม Potenza Laser เหมาะกับทุกสภาพผิว ที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอย ปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้ปัญหาหน้าท้องย้วย รูขุมขนกว้าง ปัญหาผิวแตกลาย และผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดด โปรแกรม Potenzs จะช่วยให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใส กระชับ และสดใสอีกครั้ง
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการรักษาโปรแกรม Potenza Laser
- หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol, AHA, BHA 3-5 วันก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดด SPF 50 ก่อนการรักษา
- แจ้งแพทย์หากมีประวัติผิวหนังหรือมีแผลเปิดบริเวณใบหน้า
- หยุดใช้ยากลุ่ม Isotretinoin (Roaccutane) อย่างน้อย 6 เดือนก่อนทำ
- งดการขัดหน้า หรือใช้สครับที่รุนแรง 1 สัปดาห์ก่อนทำ
การดูแลผิวหลังทำโปรแกรม
Potenza Laser สำคัญแค่ไหน?
การดูแลผิวหลังทำ Potenza Laser มีความสำคัญมาก 24-48 ชั่วโมงแรก ผิวจะมีอาการแดง บวมเล็กน้อย และอาจมีจุดเลือดออกเล็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าโดยตรง ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนๆ และทาผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่แพทย์แนะนำ งดออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมาก หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน นอกจากนี้ยังควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 1 สัปดาห์


โปรแกรม Tixel ทำงานอย่างไร?
Tixel ทำงานโดยใช้เทคโนโลยี Thermo-Mechanical Ablation (TMA) ซึ่งหัวทิปไทเทเนียมขนาดเล็กจะถูกทำให้ร้อนและสัมผัสผิวในระยะเวลาอันสั้น สร้างรูขนาดเล็กบนผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และเพิ่มการดูดซึมยาในบางโหมด ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดีขึ้น และรักษาปัญหาผิวต่างๆ ได้โดยมีความเสี่ยงต่ำ เจ็บน้อย และพักฟื้นไม่นาน

โปรแกรม Tixel แตกต่างจากเลเซอร์อย่างไร?
โปรแกรม Tixel แตกต่างจากเลเซอร์ ดังนี้
- ผลข้างเคียงน้อย : เนื่องจากโปรแกรม Tixel ไม่ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง จึงมีความเสี่ยงต่อการไหม้ การเปลี่ยนแปลงของสีผิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวเข้ม หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ น้อยกว่าเลเซอร์บางชนิด
- ความอ่อนโยนต่อผิว : การส่งผ่านความร้อนในระยะเวลาที่สั้นมาก ทำให้โปรแกรม Tixel มักให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ และมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า
- ระยะพักฟื้นสั้นกว่า: การรักษาด้วยโปรแกรม Tixel จะมีระยะพักฟื้นที่สั้นกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์บางชนิด เนื่องจากไม่ทำลายผิวในวงกว้าง ผิวจึงฟื้นตัวได้เร็วกว่า
- ความปลอดภัยในการรักษาบริเวณรอบดวงตา : โปรแกรม Tixel ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้รักษาบริเวณผิวที่บอบบางรอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากแสงเลเซอร์

โปรแกรม Tixel เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูแบบภาพรวม : โปรแกรม Tixel ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และริ้วรอยตื้น ๆ : โปรแกรม Tixel สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำคอได้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน : โปรแกรม Tixel ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดความหยาบกร้านของผิว
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง : การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากสิวที่ไม่รุนแรง : โปรแกรม Tixel สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นตื้น ๆ และปรับสภาพผิวบริเวณที่เป็นแผลเป็นให้ดีขึ้น
- ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ : โปรแกรม Tixel ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและมีสีผิวสม่ำเสมอขึ้น
- ผู้ที่ต้องการการรักษาบริเวณรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน: โปรแกรม Tixel เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับการรักษาผิวบริเวณรอบดวงตา เช่น หนังตาตกเล็กน้อย
- ผู้ที่ต้องการการรักษาที่มีความเสี่ยงต่ำและเจ็บน้อย : โปรแกรม Tixel เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ใช่เลเซอร์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงน้อยกว่า และโดยทั่วไปให้ความรู้สึกเจ็บน้อย
- ผู้ที่ต้องการการรักษาที่มีระยะพักฟื้นไม่นาน : โปรแกรม Tixel มักมีระยะพักฟื้นที่สั้นกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์บางชนิด ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
- ผู้ที่มีทุกสภาพผิว : โปรแกรม Tixel สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบกว่าเลเซอร์บางชนิดที่มีข้อจำกัดในผู้ที่มีผิวเข้ม
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม Potenza Laser หรือ Tixel
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม Potenza Laser และโปรแกรม Tixel สามารถทำได้โดย
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข ประวัติการรักษา และความคาดหวังของคุณ แพทย์จะแนะนำว่าโปรแกรมใดเหมาะสมกับคุณที่สุด และให้คำแนะนำในการเตรียมตัวที่เฉพาะเจาะจง
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงยาที่คุณกำลังรับประทาน และโรคประจำตัวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง หรือภาวะที่อาจส่งผลต่อการรักษาและการฟื้นตัว
- 1-2 สัปดาห์ก่อนการรักษา ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง การอาบแดด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทน หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ
- 3-7 วันก่อนการรักษา ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA), เรตินอยด์ (Retinol, Tretinoin), สครับขัดผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ควรงดการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าอื่น ๆ เช่น การทำเลเซอร์ การฉีดฟิลเลอร์ การร้อยไหม หรือการทำทรีตเมนต์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนการรักษา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและทาครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและพร้อมสำหรับการรักษา
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจทำให้ผิวไวต่อการรักษามากขึ้นและส่งผลต่อการฟื้นตัว

ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
จำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม Potenza Laser หรือ Tixel เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนั้น แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระดับความรุนแรงของปัญหาผิว สภาพผิว การตั้งค่าพลังงานและจำนวน Pass ในการรักษา ชนิดของหัวทิป รวมถึงความคาดหวังของแต่ละบุคคล
แต่โดยทั่วไปแล้ว โปรแกรม Potenza ควรทำประมาณ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะ 4-6 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนโปรแกรม Tixel จะแนะนำให้ทำ 3-6 ครั้ง เว้นระยะเวลาเช่นเดียวกัน ผลลัพธ์ของทั้ง 2 โปรแกรมจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เลือกคลินิกรักษาหลุมสิวโปรแกรม Potenza Laser
และโปรแกรม Tixel ในเชียงใหม่ อย่างไรให้มั่นใจและปลอดภัย
วิธีเลือกคลินิกรักษาหลุมสิวโปรแกรม Potenza Laser และโปรแกรม Tixel ในเชียงใหม่ สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของคลินิก : เช็กจากรีวิวของผู้ที่เคยเข้ารับการรักษาจริง ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บไซต์ จาก Social Media หรือเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาของคลินิก ฐานลูกค้า และที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบว่าคลินิกได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเคยได้รับรางวัลด้านความงาม ด้านบริการหรือไม่
- ตรวจสอบแพทย์ผู้ทำการรักษา : ตรวจสอบวุฒิบัตร ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมถึงการให้คำปรึกษา คำแนะนำในการเลือกทำหัตถการต่าง ๆ ว่าดูมีความตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์หรือไม่
- ตรวจสอบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ : สอบถามเกี่ยวกับเครื่อง Potenza Laser และ Tixel ที่คลินิกใช้ว่าเป็นเครื่องแท้ ได้มาตรฐาน และมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ คลินิกที่ดีควรมีหัวทิปที่หลากหลาย เพื่อปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวและระดับความลึกของหลุมสิวที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ยังเลือกจากการประเมินบรรยากาศ การบริการ รวมถึงเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น ว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่
สรุป บอกลาหลุมสิว คืนผิวสวยใส ด้วยพลังแห่งโปรแกรม Potenza Laser
และโปรแกรม Tixel ที่เชียงใหม่
การรักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง Potenza Laser และ Tixel ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ทั้งสองเทคโนโลยีมีจุดเด่นในการปรับสภาพผิวที่มีหลุมสิว โดย Potenza เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวลึกและต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขณะที่ Tixel เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่อ่อนโยนและฟื้นตัวเร็ว การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานในเชียงใหม่ และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลผิวหลังทำจะช่วยให้คุณบอกลาหลุมสิวและได้ผิวเรียบเนียน สร้างความมั่นใจให้คุณได้อย่างยั่งยืน
รีวิวรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็นเชียงใหม่ ที่ MorTrust Clinic
กดจองคิวเพื่อนัดกับ
"หมอทรัสต์คลินิก"

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่ MorTrust Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและการปรับรูปหน้า ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีในการรักษาปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นความกระชับ ริ้วรอย หลุมสิวและปัญหาผิวต่าง ๆ ให้กับคนไข้ทุกราย คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
MorTrust Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลทุกปัญหาผิวของคุณ
ติดต่อเราได้ที่
- โทร : 063 647 8291
- Facebook : Mor Trust Clinic
- Tiktok : @mortrustclinic
- Instagram : mortrustclinic
- Line OA : @mtc_cnx